You're Here : Home Article 5 easy steps for creating a marketing plan

5 easy steps for creating a marketing plan

5 ขั้นตอนง่ายๆสำหรับสร้างแผนการตลาด

เรื่องแรกที่คุณต้องทำก็คือเข้าใจความต้องการของลูกค้า คุณทราบหรือไม่ว่าทำไมลูกค้าจึงได้ซื้อสินค้าหรือบริการของคุณ? ราคาที่คุณตั้งไว้เหมาะสมแล้วหรือยัง? คุณใช้วิธีแบบง่ายๆอย่างการลดราคาลงร้อยละ 20 ถึง 30 เมื่อลูกค้าเริ่มหดหายหรือสินค้าคงคลังเพิ่มสูงขึ้นใช่หรือไม่? คุณได้ตั้งเป้าเรื่องการตลาดหรือเป้ายอดขายในช่วง 12 เดือนข้างหน้าแล้วหรือยัง?

คุณไม่จำเป็นต้องใช้กราฟที่หวือหวาหรือที่ปรึกษาค่าตัวแพงมาพัฒนาแผนการตลาดที่มีประสิทธิภาพให้คุณแต่อย่างใด อย่างไรก็ตามคุณจำเป็นต้องมีแผนอยู่ดี แผนงานทางการตลาดจะช่วยให้คุณมองเห็นแนวทางที่ถูกต้องและขั้นตอนการลงมือทำงานต่างๆได้ แผนการตลาดสามารถช่วยคุณ

  1. แยกแยะว่าลูกค้ากลุ่มใดคือกลุ่มเป้าหมายที่ดีที่สุดของคุณ
  2. เปรียบเทียบข้อมูลของบริษัทกับข้อมูลของอุตสาหกรรมหรือตลาด
  3. คอยติดตามผลลัพธ์เพื่อที่คุณจะได้เรียนรู้ว่าอะไรที่ใช้ได้ผลบ้าง

ถ้าหากไม่มีแผน คุณอาจเดินหน้าไปอย่างรวดเร็ว แต่คุณอาจไปไม่ถูกทิศทางก็เป็นได้ ด้วยเหตุนี้เราจึงอยากแนะนำขั้นตอน 5 ประการที่จะช่วยให้คุณสร้างแผนงานการตลาดที่ใช้งานได้อย่างแท้จริงขึ้นมาได้


ขั้นตอนที่ 1: กำหนดจุดยืนของผลิตภัณฑ์้


เจ้าของธุรกิจจำนวนมากสับสนเกี่ยวกับการส่งเสริมการขาย การโฆษณา และการประชาสัมพันธ์ กิจกรรมต่างๆเหล่านี้เป็นช่องทางในการแจ้งข่าวสารหรือโครงการต่างๆออกไป ไม่ใช่การตลาดแต่อย่างใด การตลาดประกอบด้วยองค์ประกอบ 4P คือ

  1. สินค้า (product): คุณมีสินค้าหรือบริการที่เหมาะสมกับตลาดแล้วหรือยัง
  2. ราคา (price): การขายสินค้าหรือบริการในปริมาณที่ทำให้กล่มลูกค้าเป้าหมายรู้สึกพอใจ
  3. การส่งเสริมการขาย (promotion): การสร้างมุมมองที่เหมาะสมสำหรับช่องทางต่างๆ อาทิเช่นสิ่งพิมพ์ (จดหมาย ใบปลิว โบรชัวร์ และโปสการ์ด) โฆษณาทางทีวีหรือวิทยุ โฆษณาในหนังสือพิมพ์หรือนิตยสาร โฆษณาออนไลน์และอื่นๆอีกมาก
  4. สถานที่ (place): ช่องทางการส่งสินค้าไปยังจุดที่กลุ่มลูกค้าเป้าหมายสามารถหาซื้อได้


ถ้าหากคุณเสนอสินค้าหรือบริการที่เหมาะสม ในราคาที่เหาะสม ให้แก่ลูกค้าที่เหมาะสมได้ นั่นแสดงว่าคุณบรรลุเป้าหมายที่ต้องการแล้ว คุณต้องจำเอาไว้เสมอว่ายอดขายในปริมาณมากๆไม่ใช่กุญแจสำคัญแต่อย่างใด กำไรต่างหากคือกุญแจสำคัญ เป้าหมายของการทำตลาดก็คือการสร้างความสนใจที่นำไปสู่การขายที่ทำกำไรได้ ซึ่งนั่นก็คือเหตุผลที่เราต้องวางนโยบายขึ้นมา คุณต้องการจัดส่งข่าวสารชี้ชวนไปยังกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย นอกจากนั้นคุณยังต้องการข่าวสารที่ให้สัญญาในสิ่งที่คุณสามารถจัดสรรให้แก่ลูกค้าได้อย่างแท้จริงเท่านั้นด้วย


การทำสิ่งต่างๆเหล่านี้ไม่จำเป็นต้องใช้เงินเป็นจำนวนมากแต่อย่างใด ตัวอย่างเช่นในโปรแกรม Microsoft Office Publisher (ที่ให้มาพร้อมกับ Microsoft Office Small Business Management Edition 2006) คุณสามารถสร้างแผนการตลาดชั้นยอดขึ้นมาได้โดยง่าย โดยใช้หนึ่งใน 40 ตัวอย่างชุดออกแบบหลัก (Master Design Sets) เท่านั้นเอง จากนั้นสื่อโฆษณาชนิดต่างๆของคุณก็จะมีหน้าตาที่สอดคล้องกัน นอกจากนั้นคุณยังสามารถดาวน์โหลดเท็มเพล็ตทางการตลาดจาก Office Online Template Gallery มาใช้ได้ด้วย โมเดลวิซาร์ดซึ่งใช้งานได้อย่างคล่องตัวจะช่วยให้คุณแก้ไขเทมเพล็ตเหล่านี้ให้สอดคล้องกับตราสินค้าของบริษัทของคุณได้อย่างรวดเร็ว หรือใช้เครื่องมือออกแบบและวางเลย์เอาท์สมบูรณ์แบบ Publisher เพื่อสร้างชิ้นงานที่มีหน้าตาลักษณะเฉพาะตัวขึ้นมาก็ได้


ขั้นตอนที่ 2 พึ่งพาความรู้ของคนที่คุณเชื่อใจ


ถ้าหากต้องการกำหนดแผนการตลาดที่เหมาะสมสำหรับบริษัทของคุณ ให้คุณจัดประชุมระดมสมองร่วมกับที่ปรึกษาที่คุณไว้วางใจ อาทิเช่นสมาชิกในครอบครัว เพื่อน พนักงาน หรือผู้เชี่ยวชาญอื่นๆ การประชุมอาจอยู่ในระหว่างการรับประทานอาหารกลางวันอย่างไม่เป็นทางการ หรือจัดประชุมนอกสถานที่อย่างเป็นทางการก็ได้ สิ่งที่คุณต้องทำก็คือจงอยู่ห่างจากโทรศัพท์ และจงอย่าคาดหวังว่าจะได้ทุกอย่างจากการประชุมแค่ครั้งเดียว โดยในระหว่างที่ทำการประชุม คุณต้องหาทางตอบคำถามเหล่านี้ให้ได้

  1. คุณจะขายสินค้าให้ใคร?
  2. ลูกค้าเหล่านี้ต้องการอะไร?
  3. อะไรที่ทำให้สินค้าหรือบริการของคุณแตกต่างจากคู่แข่ง?
  4. กลยุทธทางการตลาดอะไรที่ทำให้สินค้าเป็นที่สนใจ?
  5. จะทำการตลาดเมื่อไหร่และบ่อยครั้งขนาดไหน?
  6. อีกหนึ่งปีคุณอยากให้บริษัทมีสภาพเป็นอย่างไร?

คุณน่าจะพิจารณาจัดประชุมโดยแบ่งออกเป็นหัวข้อย่อยๆดังกล่าวข้างต้น จากนั้นทำการกลั่นกรองแนวคิดและข้อเสนอที่ดีที่สุดออกมา เริ่มต้นโดยการจดบันทึกลงไปในกระดาษ อธิบายสภาพและขนาดของตลาดของคุณ การขายและช่องทางการจำหน่ายทำงานอย่างไร กลุ่มลุกค้าเป้าหมาย (อายุ รายได้ ที่อยู่และรูปแบบการซื้อ) และสินค้าของคุณเทียบกับคู่แข่งแล้วเป็นอย่างไรบ้าง


ขั้นตอนที่ 3 รับฟังลูกค้า


ขั้นต่อมา คุณจำเป็นต้องทราบว่าลูกค้ามีปฏิกริยาต่อคุณภาพ ราคา บริการ การส่งสินค้า ภาพพจน์ และตราสินค้าของคุณอย่างไรบ้าง หรือกล่าวโดยสรุปก็คือมีปัจจัยอะไรบ้างที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจซื้อของพวกเขา

การที่จะรู้ว่าลูกค้าคิดอย่างไร คุณก็แค่ถามพวกเขาเท่านั้นเอง ทำการสำรวจความเห็นของลูกค้าที่มีอยู่ในปัจจุบัน รวมทั้งลูกค้ากลุ่มใหม่ที่คุณต้องการเข้าถึง ทำการสอบถามทางโทรศัพท์ด้วยตนเองหรือส่งแบบสำรวจไปทางอีเมล์หรือไปรษณียบัตร มีการแจกของรางวัลบางอย่างเพื่อกระตุ้นให้มีผู้ตอบแบบสอบถามมามากๆ อาทิเช่นส่วนลดหรือตัวอย่างแจกฟรีเป็นต้น

เจ้าของธุรกิจส่วนใหญ่มักรู้สึกแปลกใจเมื่อได้รับฟังความคิดเห็นจากลูกค้า ตัวอย่างเช่นบริษัทแห่งหนึ่งทราบจากแบบสอบถามว่ารีเซฟชันของตนพูดจาไม่ดีกับลูกค้าทางโทรศัพท์ คุณจะทราบเรื่องนี้ได้อย่างไร ถ้าหากคุณไม่ได้ถามลูกค้า

นำข้อมูลที่คุณได้รับมาทำการวิเคราะห์ SWOT ซึ่งเหมือนเป็นการชำแหละธุรกิจของคุณออกมาเป็นส่วนๆนั่นเอง

  1. จุดแข็ง: อะไรที่ทำให้บริษัทของคุณประสบความสำเร็จ?
  2. จุดอ่อน: อะไรคือจุดอ่อนของคุณ
  3. โอกาส: สภาพตลาดแบบใดหรือตลาดเซกเมนท์ใดที่ช่วยให้บริษัทเติบโตได้?
  4. ภัยคุกคาม: คู่แข่งมีผลกับคุณมากน้อยเพียงใด?


ขั้นตอนที่ 4 ร่างแผนการขึ้นมา


ในตอนนี้เมื่อคุณมีรายละเอียดของลูกค้าและสภาพของตลาดแล้ว นั่นหมายความว่าคุณสามารถจัดทำแผนการตลาดขึ้นมาได้แล้ว แผนการไม่จำเป็นต้องเป็นเอกสารอย่างเป็นทางการ แต่ในแผนนี้อย่างน้อยต้องประกอบด้วยความเห็นที่ได้จากพนักงานหรือที่ปรึกษาภายนอก รวมทั้งเตรียมเอาไว้ใช้อ้างอิงในภายหลังด้วย แผนการควรประกอบด้วย

  1. สรุปสภาพตลาดและเป้าหมายของคุณ
  2. สิ่งที่คุณคาดว่าจะทำให้สำเร็จในช่วงเวลาที่กำหนด
  3. (อาทิเช่น "เราจะขายอุปกรณ์ให้ได้ 150 เครื่องภายในไตรมาสที่สี่")
  4. รายการของตลาดเป้าหมาย ซึ่งประกอบด้วยตลาดเซกเมนท์ต่างๆ รวมทั้งตลาดเฉพาะทางด้วย
  5. นโยบายที่เหมาะสมสำหรับตลาดแต่ละเซกเมนท์
  6. ค่าใช้จ่ายและทรัพยากร รวมทั้งวิธีการจัดสรร
  7. ช่องทางการทำตลาด ตรงจุดนี้คุณต้องเลือกประเภทของสื่อที่ใช้ในการทำตลาดและกลไกที่ใช้แจกจ่ายสื่อดังกล่าว เพื่อดึงดูดลูกค้าเป้าหมาย อาทิเช่นใบปลิว ไปรษณียบัตร การทำตลาดทางอีเมล์ จดหมายข่าว เว็บไซต์และอื่นๆอีกมาก
  8. นโยบายในการแข่งขัน คุณจะรับมือกับคู่แข่งได้อย่างไร? ตัวอย่างเช่น ถ้าหากคู่แข่งลดราคาสินค้าของตนเองลง

 

ขั้นตอนที่ 5: ติดตามผลลัพธ์


ใส่การประเมินผลลงไปในแผนการของคุณด้วย ใช้การวัดผลดังกล่าวเพื่อดูว่ากิจกรรมการตลาดของคุณได้ผลหรือไม่ หรือคุณควรคิดทบทวนแนวทางของคุณเสียใหม่้

คำนวณหมวดหมู่และค่าใช้จ่ายในการทำตลาดแต่ละช่องทาง จากนั้นนำไปเปรียบเทียบกับการคาดการณ์เรื่องยอดขาย

ถ้าหากคุณทำตลาดโดยใช้วิธีการส่งจดหมายออกไป คุณสามารถตรวจสอบว่าแผนงานเป็นอย่างไรบ้างได้โดยการสร้างสเปรดชีทใน Excel ซึ่งแจกแจงยอดสั่งซื้อแต่ละรายการเอาไว้ ซึ่งวิธีการนี้จำเป็นต้องระบุข้อมูลลูกค้าด้วย (อาทิเช่นหมายเลขประจำตัวของลูกค้า) นอกจากนั้นคุณต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่ามีแผนการดำเนินงานหรือปฏิทินการทำตลาดลงไปด้วย แผนการตลาดเป็นสิ่งที่ดี แต่ถ้าหากคุณไม่ได้กำหนดความรับผิดชอบ กำหนดเส้นตาย และกำหนดบุคคลที่ต้องรับผิดชอบแล้วละก็ แผนการตลาดจะไม่มีทางประสบความสำเร็จได้อย่างแน่นอน

ท้ายสุด อย่ามัวหลงระเริงในชัยชนะของตนเอง ตลาดมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ดังนั้นคุณต้องเตรียมตัวอยู่เสมอ คุณต้องทบทวนแผนการเป็นประจำทุกปีเพื่อดูว่าคุณจำเป็นตองปรับเปลี่ยนเป้าหมายใดๆหรือไม่


ขอบคุณข้อมูลจาก http://www.ksmecare.com/

Process of Work

1. เลือก packages ที่เหมาะสมกับธุระกิจของท่าน
2. กรอกข้อมูลใน order ตาม packages ที่ท่านเลือก
3. ชำระเงินตามเงื่อนไขก่อนเริ่มงาน
4. ส่งแบบโลโก้ให้เลือกเพื่อปรับแก้ไขตามเงื่อนไข
5. ชำระเงินงวดสุดท้ายพร้อมส่งไฟล์ต้นฉบับ

รับออกแบบโลโก้บริษัท, รับออกแบบโลโก้, ออกแบบโลโก้, ออกแบบ Logo, สร้างแบรนด์, ตราสินค้า, โลโก้บริษัท, identity, Logo Design, Logo, Brand Design

Comments

Latest WorkDesign Inspiration

image

Who's Online Online Visitors

We have 218 guests online